ครั้งที่แล้วเราพูดถึงปัญหาข้อแรกของนักร้องมือใหม่ นั่นคือการร้องเพลงไม่ตรงจังหวะ ครั้งนี้เราจะมาคุยกันถึงปัญหาข้อที่ 2 ของนักร้องมือใหม่ที่พบกันได้บ่อยๆ นั่นก็คือการร้องเพลงเพี้ยนค่ะ
ร้องเพลงเพี้ยนคืออะไร ?
ร้องเพลงเพี้ยนคือการที่เราร้องคนละโน๊ตกับที่เราควรจะร้อง ส่งผลให้ฟังดูแล้วเสียงของเราไปคนละทิศละทางกับดนตรี ฟังดูเหมือนอยู่คนละคีย์ ไม่ไพเราะ ถ้าเราร้องพร้อมกับดนตรีจะรู้สึกว่าเสียงของเรามันแยกออกมาจากนักร้องเป็นคนละเสียง ไม่กลืนไปด้วยกัน
หรือถ้าจะอธิบายให้เป็นทางการคือการที่เราร้องแล้วคลื่นความถี่ของเสียงร้องเรามีค่าไม่เท่ากับคลื่นความถี่ของเสียงนักร้องต้นฉบับค่ะ แต่การร้องเพี้ยนก็มีหลายสาเหตุนะคะ เช่น
1. สาเหตุจากการที่เราไม่ได้ยิน หรือได้ยินแต่ไม่ได้โฟกัสเสียงดนตรีในขณะที่เรากำลังร้อง
🎤ทางแก้ : เปิดดนตรีให้ดังขึ้น ยืนหันหน้าเข้าหาลำโพง ร้องให้เบาลง หรือลดเสียงไมค์
2. เราไม่ได้ยินเสียงตัวเอง หรือได้ยิน แต่ไม่ได้ตั้งใจฟังเสียงตัวเอง
🎤ทางแก้ : เปิดเพลงให้เบาลง แล้วเร่งความดังไมโครโฟนของตัวเอง ตั้งสมาธิ อย่าคิดเรื่องอื่น
3. เราได้ยินทุกอย่างทั้งเสียงดนตรีและเสียงร้องของตัวเอง แต่ว่ามันร้องไม่ถึง
🎤ทางแก้ : ทบทวนแบบฝึกหัดต่างๆที่จะช่วยพัฒนา Vocal Technique หรือเทคนิคการใช้เสียงต่างๆ เช่นเทคนิคการหายใจ เทคนิค Breath Support การไล่เสียงตาม scale สูงตำ่เพื่อฝึกการเพิ่มย่านเสียงสูง (Head Voice) เสียงกลาง (Mix Voice) เสียงตำ่ (Chest Voice) ซึ่งเราจะมาคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในบทความอื่นๆต่อไปนะคะ
ผลดีของการร้องตรงคีย์ ร้องตรงโน๊ต ไม่เพี้ยน
1.ร้องเพราะขึ้นโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเพิ่ม เพราะขึ้นมา 2 เท่าเลยค่ะ ถ้าร้องเพี้ยน เสียงเพราะอย่างไรก็จะไม่สามารถทำให้เพลงเพราะได้เลยค่ะ เพราะมันแปร่งหู
2.มีความมั่นใจที่จะฝึกเรื่องร้องเพลงประสานเสียง เพราะในการร้องเพลงประสานเสียงนั้นเป็นการร้องเพลงเป็นทีม โดยที่สมาชิกในทีมแต่ละคนร้องกันคนละโน๊ต โดยที่แต่ละโน๊ตฟังดูแล้วเข้ากันเป็นอย่างดี แม้ว่าเสียงจะไม่เหมือนกันก็ตาม จะทำตามนี้ได้ สมาชิกแต่ละคนจะต้องสามารถจดจำโน๊ตที่ตัวเองจะร้องได้เป็นอย่างดี และต้องร้องไม่เพี้ยนค่ะ มิฉะนั้นอาจจะเพี้ยนตามๆกันไปทั้งกลุ่ม ทำให้ร้องล่มได้
การร้องประสานเสียงมีทั้งร้องเบาๆโดยกลุ่มคนที่เรียกว่านักร้องคอรัสร้องให้นักร้องนำ และมีทั้งเป็นกลุ่มร้องประสานเสียงขนาดใหญ่เช่นกลุ่มคณะนักร้องประสานเสียงต่างๆ และนอกจากนี้ยังเป็นลักษณะแบบวงที่มีสมาชิกที่สามารถร้องเพลงได้มากกว่า
ถ้าวงที่มีสมาชิกร้องเพลงกันได้หลายๆคน ถ้าพวกเค้าจะต้องร้องพร้อมกันเมื่อไหร่ บางทีเค้าจะร้องประสานเสียงกันเช่น เพลงหากันจนเจอโดย กบ ทรงสิทธิ์ และ กบ เสาวนิตย์, วง The Beatles, วง Bee Gees เช่นเพลง How Deep Is Your Love, วง Pentatonic หรือแม้แต่วง kpop หลายๆวงเป็นต้นค่ะ
3.มีความมั่นใจ ร้องเพลงสนุกขึ้น มีกำลังใจที่จะฝึกเทคนิคการใช้เสียงเรื่องอื่นๆต่อไปค่ะ
4.ฝึกสมาธิ ฝึกความเป็นผู้ฟังที่ดี เพราะถ้าเราฟังโน๊ตออก เราจะสามารถฟังจับใจความสิ่งที่คนอื่นพูดได้ดีขึ้นแน่นอนค่ะ
วิธีเช็คว่าเราร้องตรงคีย์หรือผิดคีย์อยู่หรือไม่
1. ใช้เพจ Virtual Pitch Detector ที่ครูฟอยล์สร้างไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักเรียนเช็คโน๊ตตัวเองฟรี "ที่นี่"
2. โหลดแอพ Virtual Piano ไว้บนมือถือติดเครื่องไว้
3. ถามตัวเองว่าเพลงที่เราจะร้อง มีท่อนไหนคำไหนที่เรายังไม่มั่นใจหรือไม่ว่าต้องร้องสูงหรือตำ่ ถ้าเราไม่มั่นใจ ก็มีความเสี่ยงว่าเวลาเราร้องจริงๆนั้นจะเพี้ยน เพราะคนที่ร้องไม่เพี้ยน เค้าจะมั่นใจว่าคำนั้นๆจะต้องสูงหรือตำ่ ไม่ได้เดาๆเอา วิธีทดสอบง่ายๆเลยคือถ้าเราร้องปากเปล่า หรือร้องสดไม่มีดนตรีเปิดคลอไปด้วย เราจะยังสามารถร้องไม่เพี้ยนได้หรือไม่ เราอาจจะขึ้นต้นคนละโน๊ตกับนักร้องก็ได้ แต่เราต้องไปสามารถร้องต่อไปได้โดยที่ยังฟังดูเแล้วป็นคีย์เดียวกันตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ
4. ถามตัวเองตลอดว่าเราได้ยินเสียงอะไร เราได้ยินเสียงตัวเองชัดไหม แล้วเราได้ยินเสียงดนตรีไหม เพราะบางครั้งเราแค่เปิดเบาไปค่ะ แต่ถ้าเปิดดังแล้วแต่เราได้ยินแต่เสียงตัวเองดังมากกว่าดนตรี เราก็อาจจะเพี้ยนอยู่ค่ะ วิธีแก้คือลองร้องให้เบาลงค่ะจะได้โฟกัสกับเสียงดนตรีมากขึ้นได้ แต่ถ้าเราได้ยินเสียงดนตรีมากกว่าเสียงตัวเอง ก็ต้องลดดนตรี หรือเพิ่มเสียงไมโครโฟนนะคะ ถ้าใส่หูฟังที่ไม่ได้มีระบบให้เราได้ยินเสียงตัวเอง (หูฟังฟังเพลงธรรมดา) ก็ลองถอดหูฟังออกข้างนึงนะคะ น่าจะดีขึ้น
วิธีแก้การร้องเพลงผิดคีย์ หรือร้องเพลงเพี้ยน
1.ต้องเรียนรู้และจำคำศัพท์เกี่ยวกับดนตรีเบื้องต้นไว้นิดหน่อยค่ะ เพื่อที่ว่าจะได้เข้าใจตรงกันและสามารถต่อยอดหาข้อมูลต่อๆไปได้นะคะ เช่น
🎸เนื้อ = เนื้อเพลง
🎸โน๊ต (Note) = สัญลักษณ์ทางดนตรีที่อยู่บนบรรทัด 5 เส้น ซึ่งโน๊ตที่เราเห็นนี้จจะหมายถึงตำแหน่ง เสียงสูงตำ่
🎸โน๊ต (Pitch) = เสียงสูงตำ่ที่เราได้ยิน โดยจะวัดจากแรงสั่นสะเทือนของคลื่นความถี่เสียงซึ่งความแตกต่างนี้จะทำให้เสียงนั้นสูง เสียงนี้ตำ่ แต่ละเสียงสูงตำ่ก็จะมีเชื่อต่างๆกันนั้นคือ C D E F G A B ค่ะ ภาษาอังกฤษแยก Note กับ Pitch ออกจากกัน แต่ภาษาไทยเรียกเหมือนกันว่าโน๊ตค่ะ ก็คงต้องดูบริบทประกอบว่าหมายถึงโน๊ตอะไร
🎸โทนเสียง (Tone) = นำ้เสียงแบบต่างๆ เช่นนำ้เสียงทุ้ม นำ้เสียงนุ่ม นำ้เสียงแหลม เสียงทุ้มมักจะถูกโยงเข้ากับเสียงตำ่ และเสียงแหลมมันจะถูกโยงเข้ากับเสียงสูง แต่ก็ถูกส่วนนึงค่ะไม่เสมอไปนะคะ
🎸ซอลเฟจ (Solfège) = ชื่อโน๊ตสำหรับนักร้อง เหมาะกับการฝึกไล่เสียง มีดังต่อไปนี้ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที หรือ Do Re Mi Fa So La Ti นักร้องกลุ่ม Fixed Do จะมองว่า Do = C , Re = D, Mi = E, Fa = F, So = G, La = A, B = To ส่วนนักร้องกลุ่ม Move Do หรือ Moveable Do จะมองว่า Do ไม่จำเป็นต้องเท่ากับ C แต่ Do คือโน๊ตแรกของคีย์นั้นๆต่างหากค่ะ ดังนั้นโน๊ตต่อๆไปเช่น Re Mi Fa ก็คือโน๊ตที่เรียงต่อเป็นลำดับที่ 2 3 4 นั้นเองค่ะ
🎸 แฟลท (Flat) = เสียงตำ่ลงครึ่งเสียง มีเครื่องหมาย ♭
🎸ชาร์ป (Sharp) = เสียงสูงขึ้นครึ่งเสียง มีเครื่องเหมาย #
🎸คีย์ (Key) = เสียงตัวแม่ เสียงตัวหลักของเพลงที่เราได้ยิน มักจะพบมันอยู่ที่คำสุดท้ายของท่อนคอรัส หรือ ฮุค
🎸คอรัส หรือ ฮุค (Chorus , Hook) มักเป็นท่อนที่ฟังแล้วติดหูที่สุด ส่วนใหญ่จะพบเจอในเพลงสมัยใหม่เช่นเพลง วาดไว้ ของ Bowky Lion ท่อนคอรัสคือท่อน
🎸ฝึกหู (Ear Training) = ฝึกการฟังเสียงสูงตำ่แล้วออกเสียงให้ตรงกับเสียงสูงตำ่นั้นๆ
🎸สเกล (Scale) = บันไดเสียงโน๊ตสูงตำ่ มีหลายแบบ เช่นสเกลเมเจอร์ สเกลไมเนอร์ เป็นต้น
"ที่เธอเคยบอกฉัน อย่าร้องไห้
อยู่ให้ได้ถ้าเธอไม่อยู่
โปรดรับรู้เธอยังอยู่ในใจ
ที่เธอเคยบอกฉัน อย่าร้องไห้
อยากขอโทษที่ทำไม่ได้
ที่วาดไว้ด้วยกัน
จากนี้ฉันต้องฝันคนเดียว"
🎸อ็อกเทฟ (Octave) = มาตรวัดความห่าง 8 โน๊ต เช่นโดตำ่กับโดสูง เรตำ่กับเรสูง จะเห็นว่าพวกมันห่างกัน 8 โน๊ต เหล่านี้เรียกว่ามีระยะห่าง 1 อ็อกเทฟ เปียโนไม้ 1 หลังจะมีประมาณ 7 อ็อกเทฟค่ะ เราจะรู้ความแตกต่างว่าอ็อกเทฟไหนเป็นอันไหนจากตัวเลขที่กำกับข้างชื่อโน๊ตนั้นๆ เช่น C1 , C2, C3, C4 เป็นต้น
2. สร้างความเข้าใจว่าการร้องเพลงคือการฟังดนตรีแล้วปรับเสียงตัวเองให้ตรงกับโน้ตที่จะร้อง (Listen and Match The Pitch) เสียงสูงจะให้ความรู้สึกสว่างและบางทีเล็กแหลม เสียงตํ่าจะให้ความรู้สึกใหญ่ๆทุ้มหนักแน่น ถ้าเราร้องตรงโน๊ตหรือร้องไม่เพี้ยน เสียงของเราจะกลืนไปกับเสียงที่เราจะเลียนแบบ ไม่ฟังแยกออกมาเป็น 2 เสียง
ถ้าเสียงของเราลอยหรือเราได้ยินเสียงตัวเองมากกว่าเสียงดนตรี นั่นแปลว่าเราร้องสูงไป ถ้าเสียงเราเบาแต่เสียงเราไม่กลมกลืนไปกับเสียงดนตรี นั่นคือเราร้องตํ่าไป ให้เราค่อยๆปรับเลื่อนเสียงตัวเอง จนเสียงของเรากลมกลืนไปกับเสียงที่เราจะเลียนแบบค่ะ เวลาเลื่อนเสียงขึ้นลง ให้ร้องเบาๆและไม่เกร็งคอ ถ้าร้องดังจะยิ่งเลื่อนเสียงยาก
3. สร้างความเข้าใจและรับรู้ว่าโน๊ตที่เราร้องบางครั้งจะมีเสียงวรรณยุกต์ไม่เหมือนกับที่เราเคยชินในการพูด เช่นคำว่า "ฟ้า" เป็นคำเสียงสูง แต่เราอาจจะต้องร้องเป็นเสียงตํ่า กลายเป็นคำว่า ฝ่า ก็ได้นะคะ หรือ step (สะ-เต็ป) เป็นคำเสียงดูตำ่ๆ แต่อาจจะไปเจอโน๊ตที่บังคับขึ้นเสียงสูง กลายเป็น ( ซะ--เต๊บ) ก็ได้นะคะ ถ้าเจอกรณีที่ขัดกันอย่างนี้ ให้ยึดตามเสียงโน๊ตเป็นหลักเสมอ ระวังอย่าเผลอเอาเสียงพูดมาใช้ มิฉะนั้นมันจะฟังดูเหมือนท่องอาขยานค่ะ ถ้ากลัวลืมให้เขียนทับศัพท์เป็นวรรณยุกต์ที่ใกล้เคียงกับเสียงโน๊ตที่เราจะร้องได้เลยค่ะ
4. ออกเสียงทีละคำกับเปียโนโดยที่พยายามเลียนแบบเสียงให้กลืนไปกับเปียโนให้มากที่สุด โดยเริ่มต้นเลือกเล่นโน๊ตกลางๆเปียโนที่ฟังดูตำ่ๆไม่ค่อยยาก แล้วพยายามร้องตามโน๊ตนั้นๆ ด้วยเสียงง่ายๆ เช่น "อา" หรือจะ "ฮัม" เสียง ถ้า ระหว่างนั่นให้เปิดเพจของครูฟอยล์ เพจนี้ ที่ครูฟอยล์ทำเครื่องวัดชื่อโน๊ต (Pitch Detector) เอาไว้ นร.ลองดูว่าโน๊ตที่นร.ร้องชื่อเดียวกันกับโน๊ตบนเปียโนที่นร.กดหรือเปล่า
5.เลือกเพลงที่เสียงนักร้องคล้ายๆกับเสียงของเรา เสียงไม่สูง ร้องไม่ยาก มาผึกก่อน พยายามร้องเสียงโน๊ตเดียวกับเค้าให้ได้มากที่สุด ถ้าทำถูกต้อง เสียงของเราจะกลืนไปกับเสียงของนักร้องเลยค่ะ ฟังเพลงที่เราอยากจะฝึกอย่างละเอียดก่อนอย่างน้อยสัก 10 หนเพื่อให้เราจำเสียงโน๊ตหรือเสียงนักร้องได้ขึ้นใจ
6.เวลาเราซ้อมร้องคาราโอเกะ (ดนตรีเปล่าที่ไม่มีเสียงนักร้อง) เราต้องรู้จักเล่นซ่อนหากับโน๊ตที่เราจะร้อง เวลาร้องคาราโอเกะ มันจะเป็นการร้องเพลงที่ไม่มีเสียงนักร้องนำ มีแต่ดนตรีเปล่าๆ ให้เราค่อยๆฟังดนตรี เสียงโน๊ตที่เราร้องจะถูกซ่อนอยู่ข้างในดนตรีนั้น ค่อยๆเปล่งเสียงออกมาให้ตรงกับเสียงนักร้องต้นฉบับหรือเสียงโน๊ตที่อยู่ในใจเรา ถ้าทำถูก เสียงเราจะกลมกลืนไปกับเสียงคาราโอเกะ
7. เลือกใช้เปียโน ฝึกหูหรือฝึก Ear Training เพราะเปียโนเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงดังเหมาะในการฝึกร้องให้ตรงคีย์มากเๆ จึงทำให้เราได้ยินเสียงโน๊ตที่เราจะต้องร้องเลียนแบบชัดเจน ระหว่างเปียโนไฟฟ้ากับเปียโนไม้ แนะนำเปียโนไม้เพราะมีความกังวาล ได้ยินชัดกว่าเปียโนไฟฟ้า แค่ถ้านักเรียนไม่มีเปียโนนักเรียนก็สามารถดาว์นโหลดแอพเปียโน หรือเข้าไปที่ เว๊บนี้ ที่ครูฟอยล์ทำ virtual piano ขึ้นมาให้ใช้กันได้นะคะ
8. เรียนรู้การไล่เสียงตามสเกลเมเจอร์ และไมเนอร์ (Major Scale, Minor Scale) การไล่เสียงตามสเกลจะทำให้เราได้ฝึกการฟังและการออกเสียงให้เหมือนกับที่ได้ยินอย่างละเอียด เวลาเราฝึกร้องสเกล เราต้องฝึกทั้งขาขึ้นและขาลง โดยที่ต้องมีเสียงเปียโนเล่นสเกลนั้นไปด้วย ครูฟอยล์รวบรวมเสียงสเกลเบื้องต้นมาให้ลองฝึกกันค่ะ
แบบฝึกหัด Ear Training เพื่อแก้ไขการร้องเพี้ยนผิดคีย์
ลองกดฟังเสียงสเกลแต่ละแบบด้านล่างแล้วร้องตามดูค่ะ เราต้องร้อมตามให้เหมือนเป๊ะๆเลยนะคะถึงจะคือว่าถูกคีย์ค่ะ โดยที่เราต้องกดเช็คว่าเราร้องโน๊ตอะไรด้วยนะคะ กดได้ "ที่นี่" เลยค่ะ
เปิดลำโพงให้ดังๆค่ะ แล้วค่อยๆทำนะคะ ถ้ายากก็ทำวันละนิดวันละหน่อย ให้จำเอาไว้ว่ากรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายใน 3 วันนะคะ 😊
🎹 เมเจอร์สเกลโน๊ตไล่ขึ้นสำหรับผู้หญิง - โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด ( Do Re Mi Fa So La Ti Do)
🎹 เมเจอร์สเกลโน๊ตไล่ลงสำหรับผู้หญิง - โด ที ลา ซอล ฟา มี เร โด (Do Ti La So Fa Mi Re Do)
🎹 เมเจอร์สเกลโน๊ตไล่ขึ้นสำหรับผู้ชาย - โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด ( Do Re Mi Fa So La Ti Do)
🎹 เมเจอร์สเกลโน๊ตไล่ลงสำหรับผู้ชาย - โด ที ลา ซอล ฟา มี เร โด (Do Ti La So Fa Mi Re Do)
สำหรับ ไมเนอร์เสกลนั้นร้องได้ 2 แบบนะคะ คือร้องเริ่มที่ "โด" และ ร้องเริ่มต้นที่ "ลา" แต่เสียงเปียโนจะเหมือนกันค่ะ
🎹 ไมเนอร์สเกลโน๊ตไล่ขึ้นสำหรับผู้หญิง - โด เร เม ฟา ซอล เล เท โด (Do Re Me Fa So Le Te Do) , ลา ที โด เร มี ฟา ซอล ลา (La Ti Do Re Mi Fa so La )
🎹 ไมเนอร์สเกลโน๊ตไล่ลงสำหรับผู้หญิง - โด เท เล ซอล ฟา เม เร โด (Do Te Le So Fa Me Re Do , ลา ซอล ฟา มี เร โด ที ลา (La So Fa Mi Re Do Ti La)
🎹 ไมเนอร์สเกลโน๊ตไล่ขึ้นสำหรับผู้ชาย - โด เร เม ฟา ซอล เล เท โด (Do Re Me Fa So Le Te Do) , ลา ที โด เร มี ฟา ซอล ลา (La Ti Do Re Mi Fa so La )
🎹 ไมเนอร์สเกลโน๊ตไล่ลงสำหรับผู้ชาย - โด เท เล ซอล ฟา เม เร โด (Do Te Le So Fa Me Re Do , ลา ซอล ฟา มี เร โด ที ลา (La So Fa Mi Re Do Ti La)
ตัวอย่างเพลงที่เหมาะกับการฝึกร้องเพื่อพัฒนาทักษะการร้องให้ตรงโน๊ต ตรงคีย์สำหรับผู้ใหญ่
อันดับแรกเลย ครูฟอยล์แนะนำให้เลือกฝึกเพลงที่รู้จักอยู่แล้ว ที่คุ้นหู จะได้จำทำนองได้ง่ายๆ ถ้าเป็นเพลงยุคเก่าๆจะร้องได้ง่ายกว่าเพลงยุคใหม่เพราะเพลงยุคเก่ามีทำนองที่เรียบง่ายกว่าเพลงยุคใหม่ค่ะ แล้วถ้าจะให้ดีก็ควรจะเป็นเพลงที่ชอบเพราะจะได้ไม่เบื่อเวลาซ้อมค่ะ แต่ถ้าคิดไม่ออกจริงๆ ครูฟอยล์ลองทำรายชื่อเพลงภาษาไทย ภาษาต่างประเทศทที่ร้องง่ายๆของผู้หญิง ผู้ชาย ลองร้องกันดูนะคะ
เพลงไทย ผู้หญิง | เพลงไทย ผู้ชาย | เพลงต่างประเทศ ผู้หญิง | เพลงต่างประเทศ ผู้ชาย |
1. ทรายกับทะเล-นันทิดา แก้วบัวสาย | 1.เล่าสู่กันฟัง-เบิร์ด |
| 1.Love Me Tender-Elvis Presley |
2. วิมานดิน-นันทิดา แก้วบัวสาย | 2.ต้องโทษดาว-เบิร์ด ธงชัย | 2.Whatever Will Be Will Be-Doris Day | 2.Fly Me To The Moon-Frank Sinatra |
3.รักคือฝันไป-สาว สาว สาว | 3.ลืม-เบิร์ดกะฮาร์ท | 3.If We Hold On Together-Diana Ross | 3.Stand By Me-Ben E. King |
4.รักไม่ต้องการเวลา- หนูนา | 4.เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ)-เพชร โอสถานุเคราะห์ | 4.The Moon Represents My Heart-Teresa Teng | 4.Just The Two Of Us-Grover Washington jr |
5.ขอบใจนะ-แพรว คณิตกุล | 5.ปาฏิหาริย์-กบ ทรงสิทธิ์ | 4.What Can I Do-The Corrs | 5.let It Be-The Beatles |
6.คิดถึงนะ-แพรว คณิตกุล | 6.รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง-ติ๊ก ชิโร่ | 6.The Show-Lenka | 6.Imagine-John Lennon |
7.ซ่อนกลิ่น-Palmy | 7.คนมีเสน่ห์-ป้าง นครินทร์ | 7.Trouble Is A Friend-Lenka | 7.Sukiyaki-Kyu Sakamoto |
8.เพื่อนสนิท-ดา เอ็นโดรฟิน | 8.Season Change - บอย โกสิยพงษ์ | 8.Kiss Me-Sixspence None The Richer | 8.When You Say Nothing At All-Ronan Keating |
9. Live & Learn-กมลา สุโกศล | 9.กีดกัน-บิวกิ้น Billkin | 9.A Thousand Years-Christina Perri | 9.All Of Me-John Legend |
10.หรือฉันคิดไปเอง- ส้ม มารี | 10.ฝนตกไหม-Three Man Down | 10.Love Story-Taylor Swift | 10.Shotgun-George Ezra |
ส่วนตารางข้างล่างนี้จะเป็นเพลงที่เหมาะกับเด็กๆค่ะ น้องๆเริ่มร้องเพลงได้ตั้งแต่เด็กๆโดยมีครูคนแรกคือคุณพ่อ คุณแม่ เราสามารถเปิดเพลงเด็กเล็กให้น้องฟังได้ เดี๋ยวเค้าจะเริ่มร้องตามค่ะ ส่วนพอน้องเริ่มโตขึ้นมา ฟอยล์แนะนำเพลงของนักร้องเด็กมาให้ฝึกร้องกัน เช่นเพลง Baby ของ Justin Bieber ค่ะ
เพลงสำหรับเด็ก |
1.Happy Birth Day |
2.Merry Had A Little Lamb |
3.Twinkle Twinkle Little Star |
4.มดตัวน้อยตัวนิด |
5.พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง |
6.ABC Song (Traditional and from Foil Chousurin's) |
7.Do Re Mi- The Sound Of Music |
8.Castle On A Cloud-Les Miserables |
9.Part Of Your World-Little Mermaid Cartoon |
10.Baby-Justin Bieber (ยกเว้นช่วง rap) |
วิธีแก้ไขสถานการณ์เมื่อร้องเพลงเพี้ยน
สุดท้ายแล้วหลังจากทำทุกอย่างเบื้องต้นแล้วยังเกิดอุบัติเหตุเผลอร้องเพี้ยนขึ้นอีก ให้เราทำดังต่อไปนี้ค่ะ
1. ถ้าเพี้ยนในขณะที่กำลังร้องให้คนอื่นฟัง ให้เราทำใจร่มๆแล้วตั้งหลักฟังดนตรีที่มาคั่นก่อนที่เราจะร้องประโยคถัดไป หาเสียงโน๊ตที่ถูกซ่อนไว้ให้เจอ จำไว้ว่าเสียงโน๊ตที่เราจะต้องร้องนั้นจะถูกซ่อนไว้ภายใต้เสียงเครื่องดนตรีต่างๆของเพลงนั้นๆเสมอ ใจเย็นๆค่ะบางทีคนดูอาจจะยังไม่ทันได้ฟังก็เป็นได้
2. ถ้าเพี้ยนตอนซ้อมคนเดียว อย่าปล่อยผ่าน ย้อนกลับไปเริ่มประโยคนั้นใหม่เลยค่ะ ถ้าเพี้ยนเป็นคำๆ จะรู้สึกแปลกๆเป็นจุดๆ ไม่ใช่รู้สึกแปลกทั้งประโยค ให้ลองทบทวนดูว่าคำนั้น เสียงจะสูงหรือตำ่ ถ้าไม่มั่นใจอย่ามั่ว ให้รีบเปิดเช็คเพลงต้นฉบับเลยค่ะ ว่าเค้าร้องอย่างไร เลียนแบบเสียงโน๊ตเค้าเลยค่ะ
ให้จำไว้เสมอว่า การร้องเพลงเป็นเรื่องของทักษะ ที่ต้องอาศัยเวลาหมั่นฝึกฝนจนกว่าจะเป็นธรรมชาติ แม้แต่มืออาชีพก็ยังมีโอกาสผิดพลาด เผลอมีการร้องเพี้ยนได้บ้าง เพราะเราทุกคนยังเป็นมนุษย์ มี human error เกิดขึ้นได้ ให้มีกำลังใจและคิดเอาไว้ว่าเรากำลังพัฒนาขึ้นทุกๆวันที่เราฝึกฝนค่ะ เพียงเท่านี้เราก็จะเป็นนักร้องเสียงเพราะไม่ใช่นักร้องเสียงเพี้ยนแล้วค่ะ
ถ้าฝึกคนเดียวแล้วไม่รู้ว่าทำถูกอยู่หรือไม่ ไม่มั่นใจที่สร้างหลักสูตรให้ตัวเอง หรือ ไม่รู้ว่าถ้าหายเสียงเพี้ยนแล้วต้องฝึกอะไรต่อ ก็สามารถติดต่อครูฟอยล์มาได้นะคะ ครูฟอยล์จะพิจารณาปรับหลักสูตรให้เข้ากับเป้าหมายของนักเรียนแต่ละคน ให้เข้ากับนำ้เสียงของแต่ละคนโดยเฉพาะค่ะ ติดต่อขอนัดเวลาทดลองเรียนฟรีครึ่งชม.ได้ทางข้างล่างนี้นะคะ
ติดต่อสอบถามเรี่องเรียนร้องเพลงได้ "ที่นี่" หรือ
☎️ โทร 084-676-3610, Line : @744efjrg ,
☎️ EMAIL : octave28studio@gmail.com
☎️ FACEBOOK : www.facebook.com/octave28
Comments